​ยามาฮ่า ฟินน์ บิดสู่หาดทรายเม็ดแรก ทุ่งนาเกลือ ไหว้พระขอพร ฟินน์สุดกับผัดไทยท่ายาง เติมความหวานกับลอดช่องน้ำตาลข้น ก่อนปิดทริปด้วยระยะทาง 178.4 กม. เติมน้ำมัน 78.7 บาท

ยามาฮ่า ฟินน์ เที่ยวทั่วไทยน้ำมันถังเดียว@ เพชรบุรี มาถึงการเดินทางในวันที่สอง เช้านี้เราออกจากที่พักมาแวะรับประทานอาหารพื้นบ้านเป็นการอุดหนุนคนในพื้นที่ ก่อนออกเดินทางมุ่งหน้าสู่แหลมผักเบี้ย ในระยะทางราวๆ 20 เมตรท่ามกลางถนนสองเลนสวน เราขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์กันด้วยความระมัดระวังเพราะบางช่วงมีรถร่วมทางวิ่งกันค่อนข้างเร็วและบางช่วงของถนนไหล่ทางแคบ ความเร็วในการเดินทางอยู่ระหว่าง 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหมือนเดิม สภาพอากาศในวันนี้แดดยังคงแรงและร้อนอยู่มาก แต่สำหรับยามาฮ่า ฟินน์ เครื่องยนต์ยังทำงานปกติ วิ่งฉิวสู่จุดหมายได้อย่างมั่นใจ เราแวะเลี้ยวเข้าไปยังจุดที่เขียนไว้ตามป้ายข้างทางว่า “หาดทรายเม็ดแรก” ซึ่งจากความหมายนี้ก็น่าสงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงใช้ชื่อนี้ และเรามากระจ่างกันตรงบริเวณหาดทรายแห่งนี้เพราะบริเวณนี้เป็นบริเวณที่เป็นหาดทรายที่แรกนับจากกรุงเทพฯมาจนถึงแหลมผักเบี้ย สภาพชายหาดทั้งหมดจะเป็นดินเลนและป่าชายเลน แต่เมื่อมาถึงจุดนี้จะเป็นจุดที่มีหาดทรายเป็นจุดแรกไล่ยาวไปจนถึงทางใต้สุดของไทยเรา เรานำยามาฮ่า ฟินน์ ไปถ่ายภาพบรรยากาศที่บริเวณหาดทรายเม็ดแรกกันหลายจุดจนถึงเวลาพอสมควรก็เดินทางกันต่อเพื่อไปหาวิวสวยๆมาจอดเช็คอิน ซึ่งเมื่อขี่ยามาฮ่า ฟินน์ เลยปากทางเข้าโครงการแหลมผักเบี้ย เราก็เจอทุ่งนาเกลือขนาดใหญ่ ซึ่งเรานำยามาฮ่า ฟินน์ จอดแวะแชะถ่ายภาพกันที่บริเวณนี้ ด้วยความที่อากาศค่อนข้างร้อนก่อนออกจากหาดทรายเม็กแรก เราติดน้ำดื่มขนาด 500 ซีซีมาไว้ที่ช่องเก็บของด้านหน้ารถ ซึ่งสามารใส่ขวดน้ำไว้ให้เราหยิบดื่มในยามที่เราจอดรถได้ทันที และยามาฮ่า ฟินน์ ก็เป็นรถครอบครัวเพียงรุ่นเดียวที่มีกล่องเก็บของหน้ารถนี้ ที่ทุ่งนาเกลือหลายร้อยไร่ในบริเวณแหลมผักเบี้ยมีหลากหลายเจ้าของ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะอนุญาตให้ผู้มาเยือนได้ถ่ายภาพ ซึ่งแน่นอนทริปของเราก็ต้องบอกกล่าวเจ้าของนาเกลือนี้ด้วย เราเก็บภาพบรรยากาศนาเกลือกับยามาฮ่า ฟินน์ ฟินน์กว่าก็โดนกว่า กันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเพราะใกล้ถึงเวลาเที่ยงเต็มทน จากการขับขี่วิ่งเข้าสู่เมืองสภาพพื้นถนนถือว่าดีทีเดียว แต่ระหว่างทางจะมีลมร้อนๆพัดเข้ามาปะทะร่างกายอยู่บ้าง แต่สำหรับยามาฮ่า ฟินน์ ยังเดินหน้าทำความเร็วแบบฟินน์ๆกันต่อไป จากนั้นไม่นานเราก็มาถึงร้านผัดไทยท่ายางสาขา2 เราลิ้มชิมรสผัดไทยกุ้งสดตัวโตๆ และเกี๋ยวกรอบสุดอร่อยที่ขึ้นชื่อที่สุดในจังหวัดเพชรบุรีกัน





























หลังอิ่มท้องแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ โดยขบวนยามาฮ่า ฟินน์ มุ่งหน้าสู่วัดพระพุทธไสยาสน์ หรือ วัดพระนอน ซึ่งเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ภายในพระอุโบสถมี พระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน อายุกว่า 400 กว่าปี โดยเศียรขององค์พระนอน มีหมอนบรรทมรูปดอกบัวรองพระเศียรอยู่ 2 ก้อน เรากราบนมัสการพระนอนเสร็จแล้ว ก็เดินทางมาถ่ายรูปบริเวณทางขึ้นพระนครคีรีและมุ่งหน้าสู่ วัดถ้ำเขาหลวง ซึ่งที่นี่เชิงเขามีบันไดคอนกรีตนำสู่ทางลงถ้ำ เขาหลวงเป็นภูเขา ขนาดเล็กมียอดสูงสุดเพียง 92 เมตร มีหินงอกหินย้อย สีสันสวยงาม สำหรับถ้ำเขาหลวงถือเป็นถ้ำใหญ่และสำคัญที่สุดในเมืองเพชร ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปฉลองพระองค์อันสำคัญยิ่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างถวาย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไฮไลต์ของการมาเที่ยวถ้ำเขาหลวง คือ การได้ชมแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาจากปล่องแสงของเพดาน ถ้ำลงมาสู่พื้นข้างล่างคล้ายกับมีสปอร์ตไลท์ส่องลงมาเป็นภาพที่อัศจรรย์และงดงามมาก

หลังจากเข้าชมวัดถ้ำหลวงแล้ว ก็ได้เวลาอันสมควรที่จะต้องทำการส่งคืนรถที่ร้านยามาฮ่าเสนีย์ยนต์ โดยก่อนส่งคืนเราได้นำยามาฮ่า ฟินน์ เข้าไปทำการเติมน้ำมันกลับลงไปให้เต็มอีกครั้ง โดยเติมน้ำมันลงไป 78.7 บาท หรือเติมน้ำมันลงไป 2.71 ลิตร โดยในทริปนี้เราใช้ระยะทางในการขับขี่ทั้งสิ้น 178.4 กม. มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 65.83 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งหลังจากนำรถไปเก็บไว้ที่ร้านยามาฮ่าเสนีย์ยนต์แล้ว พวกเราทั้งหมดก็แวะเติมความหวานให้กับร่างกายด้วยลอดช่องชื่อดังที่จังหวัดเพชรบุรีที่ร้านลอดช่องน้ำตาลข้น โพธิการ้อง จากนั้นก็ปิดทริปการขับขี่ยามาฮ่าฟินน์ เที่ยวทั่วไทยใช้น้ำมันถังเดียวอย่างสมบูรณ์...พบกันใหม่ทริปหน้า





























UIP : 655 | Page View : 676