​ฟินน์ เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว @เพชรบุรี บิดเที่ยวโครงการชั่งหัวมัน, สวนตาล ร่วมงานฟินน์เฟส

ฟินน์ เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว เข้าสู่การเดินทางเป็นจังหวัดที่3 ของปีนี้ โดยในครั้งนี้เราขยับมาเที่ยวกันที่จังหวัดเพชรบุรี โดยชวนสื่อมวลชนและลูกค้าผู้ใช้รถยามาฮ่า ร่วมเดินทางไปพร้อมกันกับการเที่ยวในสไตล์ฟินน์ฟินน์ กับรถครอบครัวระดับพรีเมี่ยม ยามาฮ่า ฟินน์ กับการเดินทางเที่ยวโครงการชั่งหัวมัน ก่อนไปฟินน์กับบรรยากาศที่ร่มรื่นพร้อมจิบน้ำตาลสดรสกลมกล่อมที่สวนตาลลุงถนอม ก่อนกลับไปเที่ยวงาน Finn Fest ที่ตลาดพรีเมี่ยมมาร์เก็ตพร้อมชมฟรีคอนเสิร์ตลำไยไหทองคำ

ฟินน์ เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว เข้าสู่การเดินทางขับขี่ท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยในทริปนี้ไปทำการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์กันที่จังหวัดเพชรบุรี มีสื่อมวลชนทั้งหมด 4 สื่อและลูกค้ายามาฮ่าอีก 4 คนมาทำการขับขี่ในครั้งนี้ เราเดินทางมาถึงร้านเสนีย์ยนต์ในจังหวัดเพชรบุรีราวๆเก้าโมงครึ่งก่อนที่จะทำการเตรียมตัวและพูดคุยกับลูกค้าเกี่ยวกับเส้นทางการขับขี่ และทำการออกเดินทางในทันที โดยหลังออกเดินทางจากร้านเสนีย์ยนต์เพียง 100 เมตร รถครอบครัวระดับพรีเมียม ยามาฮ่า ฟินน์ ทั้ง 8 คันเติมน้ำมันเต็มถัง จากนั้นรถทั้ง 8 คันก็ถูกสตาร์ทอีกครั้งกับระบบสตาร์ทแบบไฟฟ้าที่อยู่บริเวณแฮนด์ด้านซ้ายเพียงนิ้วโป้งสัมผัสเพียงเบาๆเครื่องยนต์ขนาด 115 ซีซีก็ติดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พร้อมเดินทาง เกียร์ 1 ถูกกดลงไปด้านหน้าเราจะรู้ถึงความนุ่มนวลไม่มีกระชากให้ตกใจของระบบเกียร์จากนั้นก็บิดคันเร่งทำความเร็วเปลี่ยนเกียร์ไปตามความเร็วเพื่อเดินทางสู่โครงการชั่วหัวมันที่อยู่ห่างจากตัวเมืองไปราวๆ 60 กม. โดยในช่วงแรกของการเดินทางเราวิ่งอยู่บนถนนเพชรเกษมท่ามกลางรถบรรทุกใหญ่ที่วิ่งอยู่ในเลนซ้ายสุด  เราทำความเร็วอยู่ที่ 70-80 กม./ชม. ซึ่งก็สามารถขยับแซงรถบรรทุกใหญ่ได้สบายๆ ก่อนเลี้ยวเข้าสู่ถนนสาย3499 ซึ่งเป็นถนนสองเลนมุ่งหน้าสู่โครงการชั่วหัวมัน ต้องยอมรับว่าถนนที่มุ่งหน้าสู่โครงการชั่งหัวมันสภาพพื้นถนนค่อนข้างเรียบทำให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ระบบกันสั่นสะเทือนทั้งหน้าและหลังทำงานได้อย่างดีทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล เราเพลิดเพลินไปกับเส้นทางที่มีทั้งทางตรงยาวๆและทางคดเคี้ยวพร้อมวิวสวยๆของธรรมชาติเพื่อมุ่งหน้าสู่โครงการชั่งหัวมัน เพียงไม่นานก็เดินทางมาถึงโครงการชั่งหัวมัน เราทำรถยามาฮ่า ฟินน์ไปจอดที่ปั้มน้ำมันสามทหารที่ถูกเนรมิตมาใหม่ และนำรถยามาฮ่า ฟินน์ ไปจอดที่ลานจอดด้านในที่มีทุ่งกังหันลมที่ไว้ผลิตพลังงานไฟฟ้าถ่ายรูปในบริเวณนี้ จากนั้นก็นั่งพักผ่อนชมวิวที่สวยงามและพื้นที่ของโครงการชั่งหัวมันซึ่งทุกคนก็ทราบกันดีว่า สถานที่ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2551 และได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา หลังจากนั้นก็ได้เวลาเดินทางกันต่อเพื่อไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านเจ๊เพ็ญซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการชั่วหัวมัน































หลังเติมพลังและนั่งพูดคุยถึงทริปการเดินทางแล้วเครื่องยนต์ยามาฮ่า ฟินน์ ก็ถูกสตาร์ทอีกครั้ง เราวิ่งกลับในเส้นทางเดิมเพื่อมุ่งหน้าสู่สวนตาลลุงถนอม ซึ่งช่วงนี้เราขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ กันแบบยาวๆ เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 115 ซีซีทำงานได้ดีท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน เครื่องยนต์ยังคงเดินเรียบส่งกำลังทำความเร็วกันแบบสบายๆที่ 70-80 กม./ชม. เราใช้เวลาประมาณเกือบสามสินนาที ก็เลี้ยวรถเข้าสู่สวนตาลลุงถนอม ทางเข้าเป็นทางแคบๆแต่อุดมไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ ต้นไม้สูงๆพร้อมลำธารเล็กๆทอดตัวมุ่งสู่สวนตาลซึ่งมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจน ทันทีที่มาถึงเราก็ต้องตกตะลึงกับทิวต้นตาลสูงใหญ่มากกว่า 450 ต้นถูกปลูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ด้านในลุงถนอมกำลังปีนอยู่บนยอดตาลแกลงมาต้อนรับพวกเราอย่างเป็นกันเอง แน่นอนเมื่อมาถึงสวนตาลสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ชิมขนมตาลและจิบน้ำตาลสดที่ทำกันบริเวณโรงเรือนเพื่อไว้ต้อนรับผู้มาเยือน ซึ่งพวกเราก็อุตหนุนขนมตาลและน้ำตาลสดกันอย่างเต็มที่พร้อมนำยามาฮ่า ฟินน์ จอดถ่ายภาพมุมสวยๆของสวนตาลลุงถนอมแห่งนี้
 
เราเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่ร่มรื่นของสวนตาลลุงถนอมกันนานจนเวลาล่วงเลยถึงบ่ายสี่โมงเย็นก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ โดยจากจุดนี้เราจะมุ่งหน้าสู่ตลาดนัดพรีเมียมเพื่อเข้าร่วมงาน FINN FEST ที่ยามาฮ่าจัดขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์มาร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมายพบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษของยามาฮ่า ฟินน์ จากร้านยามาฮ่าเสนีย์ยนต์ ทั้งยังให้บริการตรวจเช็ครถจักรยานยนต์ฟรี เดินเที่ยวงานฟรีพร้อมรับคูปองอาหารและเครื่องดื่ม สนุกกับการละเล่นพื้นเมือง การแข่งขันกินขนมหม้อแกง สนุกกับSexy Dance การแสดงรำวงและกรี๊ดสุดเสียงกับฟรีคอนเสิร์ตลำไย ไหทองคำในช่วงสุดท้าย หลังจบงานยามาฮ่า ฟินน์ ทั้ง 8 คันเดินทางเข้าพักที่โรงแรม เราได้เห็นระบบการส่องสว่างของระบบไฟหน้าของยามาฮ่า ฟินน์ ซึ่งเป็นหลอดไฟแบบฮาโลเจน ที่ส่องสว่างไกล ทั้งแผงหน้าปัดเรือนไมล์ก็สว่างชัดเจนมองเห็นได้ชัดเจนทั้งในยามกลางวันและกลางคืน รวมถึงไฟท้ายที่สว่างชัดทำให้มั่นใจในด้านความปลอดภัยให้ผู้ร่วมทางได้มองเห็นเราชัดเจนยิ่งขึ้น โดยในวันแรกนี้เราใช้ระยะทางในการขับขี่ทั้งหมด 127 กิโลเมตร ซึ่งจะสังเกตที่เข็มน้ำมันยังไม่ถึงขีดกลางเลย...





























UIP : 504 | Page View : 519