ฟินน์ทั่วไทยใช้น้ำมันถังเดียว บิดเที่ยวเชียงใหม่ รวมระยะทาง 162.6 กม. เติมน้ำมันไป 70 บาท

ทริปยามาฮ่าฟินน์ เที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว @เชียงใหม่ เข้าสู่วันที่สอง ขบวนการฟินน์ออกสตาร์ทเริ่มต้นการเดินทางจาก Holiday Garden Hotel & Resort ซึ่งเป็นที่พักของสมาชิกฟินน์ในทริปนี้ โดยจุดหมายแรกของวันนี้อยู่ที่การไปเก็บภาพบรรยากาศช่วงเช้าแบบฟินน์ๆกันที่ อ่างเก็บน้ำกาแล ซึ่งเป็นสถานที่เก็บภาพดอยสุเทพและตัวเมืองที่สวยอีกจุดหนึ่งของเชียงใหม่ แต่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก จากนั้นขบวนยามาฮ่า ฟินน์ ได้เคลื่อนตัวผ่านถนนซอยเล็กๆ ลัดเลาะไปอย่างคล่องตัว เพื่อมุ่งหน้าสู่ วัดอุโมงค์ วัดเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ที่มีจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ อุโมงค์ขนาดเล็กภายในวัด ที่มีทางเดินเชื่อมต่อถึงกัน โดยสมาชิกฟินน์ต่างรู้สึกตื่นเต้นและเดินเที่ยวชมอุโมงค์กันอย่างเพลิดเพลิน
 
หลังจากที่ฟินน์กับวัดอุโมงค์กันเต็มที่แล้ว ขบวนการฟินน์จึงได้เดินทางต่อไปยัง บ้านข้างวัด แห่งคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์พื้นเมือง ตั้งอยู่ในซอยวัดอุโมงค์ ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ อิงบรรยากาศแบบสมัยเก่าผสมกับความร่วมสมัยในปัจจุบัน ที่มีร้านขายของเแฮนเมด, ของตกแต่งบ้าน, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, งานไม้, งานคราฟท์, งานเซรามิก และมีกิจกรรมสนุกให้ได้ร่วมฟินน์กันอย่างมากมาย ซึ่งสมาชิกฟินน์ใช้เวลาอยู่ที่นี่นานพอสมควรทีเดียว ก่อนที่จะออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน ข้าวซอยฟ้าฮ่าม (เชฟยุ่น) ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 10 กม. โดย ยามาฮ่า ฟินน์ ถูกบิดคันเร่งใช้ความเร็วพอสมควรท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นวันที่สองของทริปนี้ แต่เครื่องยนต์ก็ยังสามารถตอบสนองทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะ โดยรอบเครื่องไม่มีตกหรือสะดุดแม้แต่น้อย
 




















และเมื่ออิ่มท้องจากมื้อกลางวันเรียบร้อย ขบวนการฟินน์ได้ออกเดินทางกันต่อไปยัง พระธาตุดอยคำ ที่เป็นวัดสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี และยังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทันใจซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่าห้าร้อยปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ มีความสูงจากระดับที่ราบเชียงใหม่ราว 140 เมตร และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 465 เมตร โดยในวันนี้สมาชิกฟินน์ได้ทดลองนั่งซ้อนไปกับ ยามาฮ่า ฟินน์ ในการไต่ความสูงขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยคำด้วย ซึ่งเครื่องยนต์ 115 ซีซีก็โชว์ให้เห็นถึงพละกำลังที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือจนสามารถพาคันที่มีคนซ้อนเกาะตามติดไปกับขบวนฟินน์ได้แบบสบายๆ อีกทั้งช่วงล่างก็ยังสามารถรองรับน้ำหนักของผู้ขับขี่และคนซ้อนที่มีน้ำหนักรวมกันกว่า 120 กก. ไต่ขึ้นเขาและเขาโค้งได้อย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพเป็นอย่างมากอีกด้วย และเมื่อขึ้นมาถึงวัดพระธาตุดอยคำ พวกเราชาวฟินน์ก็ไปถ่ายภาพกันที่ลานชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดชัดเจนกว่าที่เคยเห็นมา
 
จากนั้นสมาชิกฟินน์ก็ไปพักผ่อนคลายร้อนกันที่ ร้านลานดิน ร้านกาแฟที่เราจะได้ฟินน์กับสถาปัตยกรรมการออกแบบที่ดูแล้วผ่อนคลายสไตล์คนมินิมอล ซึ่งที่นี่สมาชิกฟินน์ได้นั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความประทับใจในการร่วมทริปสุดฟินน์ในครั้งนี้ ซึ่งทุกคนต่างรู้สึกทึ่งกับพละกำลังเครื่องยนต์ของยามาฮ่า ฟินน์ ที่สามารถพาชาวคณะขึ้นไต่เขาไปได้อย่างสบายๆ ทำให้การขับขี่เต็มไปด้วยความสนุก อีกทั้งช่วงล่างก็ให้การตอบสนองที่ทำให้การเข้าโค้งเต็มไปด้วยความมั่นใจ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ลูกค้าฟินน์ทั้ง 3 คนที่ร่วมทริปยังไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน แต่ทริปนี้ทำให้ทุกคนได้รู้จักกับสมรรถนะของ ยามาฮ่า ฟินน์ ได้มากยิ่งขึ้น และสุดท้ายขบวนการฟินน์ก็ปิดทริปด้วยกันขับขี่ ยามาฮ่า ฟินน์ ไปส่งที่ ร้านเจริญมอเตอร์ ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. โดยมีระยะทางรวมในทริปนี้อยู่ที่ 162.6 กม. โดยเป็นเส้นทางบนเขาประมาณ 80% และใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไปแค่ 70 บาทเท่านั้น หรือใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ไปเพียงแค่ 2.30 ลิตร ได้ค่าค่าเฉลี่ยประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 70.69 กม./ลิตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นค่าความประหยัดที่สมาชิกฟินน์แปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะทริปนี้ขับขี่กันบนเส้นทางเขาและต้องเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนระอุตลอดทั้ง 2 วันในการเดินทาง...แต่ยามาฮ่า ฟินน์ ก็ยังคงมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่น่าประทับ นอกจากนี้สมรรถนะกำลังเครื่องยนต์ก็ทำได้ดีกว่าที่หลายๆคนคาดการณ์ไว้มากทีเดียว...แบบนี้ต้องบอกว่า “ฟินน์กว่า...ก็โดนกว่า”

















UIP : 564 | Page View : 568