ฟินน์ทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว Ep.3 @บุรีรัมย์ วันที่2 ชม 2ปราสาทหิน ก่อนจิบกาแฟสุดฟินน์ที่สวนคุณปู่ ก่อนปิดทริปรวมระยะทาง 196 กม. เติมน้ำมันเพียง 83 บาท

เข้าสู่วันที่สองของการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว Ep.3 @บุรีรัมย์ เราเริ่มการทดสอบกันตั้งแต่ช่วงเช้าล้อหมุนออกจากที่พักราวๆแปดโมงครึ่ง สมาชิกทั้ง 6 คนขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ รถครอบครัวสไตล์พรีเมี่ยมรุ่นใหม่ของยามาฮ่ามุ่งหน้าสู่ปราสาทเมืองต่ำ ด้วยเส้นทางภูมิประเทศของบุรีรัมย์ที่เส้นทางมีการไต่กระดับของการขึ้นเนินยาวๆไปเรื่อยๆ เราใช้ความเร็วกันแบบสบายๆที่ 70 กม./ชม. บางช่วงขยับขึ้นไปอยู่ที่ 80 กม./ชม.





















สภาพถนนของเมืองนี้ถือว่าราบเรียบขับขี่ง่ายทำให้ไม่ล้ากับการขับขี่ผสานกับโครงรถของยามาฮ่าฟินน์ที่เป็นโครงแบบแบ็คโบนที่ให้ความมั่นคงแข็งแรงในการขับขี่มีเสถียรภาพในการควบคุมที่ดีเยี่ยม สวิงอาร์มที่ออกแบบให้มีความแข็งแรงน้ำหนักเบาซึบซับแรงสั่นสะเทือนของพื้นถนนที่ดีเยี่ยมผสานกับแผ่นรองที่ปลายสวิงอาร์มบริเวณด้านหลังของโช้คอัพหลังไว้รองรับแรงกดจากการขับขี่ทำให้รถนุ่นนวลมากขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินไปจนถึงจุดหมายแรกที่ปราสาทเมืองต่ำได้อย่างรวดเร็ว เราแวะชมความงดงามของปราสาทซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มปราสาทมรรคโค เป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ มีลักษณะเป็นศาสนสถานประจำเมืองหรือประจำชุมชน























จากนั้นก็เดินทางขึ้นไปยังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งหรือปราสาทเขาพนมรุ้งที่รู้จักกันดีกับทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์อวตารของพระนารายณ์ ซึ่งเราได้ขึ้นไปชมความงดงามของสถาปัตยกรรมและโบราณสถานแห่งนี้ ซึ่งปราสาทหินได้รับการซ่อมแซมและบูรณะโดยกรมศิลปากรจนมีความงดงามอยู่ในขณะนี้ จากอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งเราขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ กันยาวๆด้วยความเร็ว 80 กม./ชม. กับสมรรถนะรถครอบครัวที่เครื่องยนต์ขนาด 115 ซีซี หัวฉีด ท่ามกลางสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนระอุแต่ด้วยการออกแบบเสื้อสูบแบบหล่อขึ้นรูปที่มีครีบระบายความร้อนรอบๆเสื้อทำให้เสื้อสูบสัมผัสอากาศมากขึ้นทำให้ระบายความร้อนได้ดี ส่งผลให้การทำความเร็วต่อเนื่อง เราขี่กันแบบฟินน์ฟินน์มาจนถึง “สวนคุณปู่"ร้านกาแฟสด สไตล์ท้องทุ่งล้อมรอบด้วยชุมชน แห่งแรกของจังหวัดบุรีรัมย์ มีทั้งทุ่งนา สะพานไม้ทางเดิน ร้านกาแฟเย็นๆและจุดถ่ายรูปสวยๆให้ผู้มาเยือนได้ฟินไปกับบรรยากาศ



















จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งถือว่าการขับขี่ในวันที่สอง แม้เส้นทางจะยาวกว่าวันแรกแต่ความฟินในการขับขี่ที่ยามาฮ่าฟินน์ในช่วงล่างที่ดีไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่มีล้อแม็กซ์ หรือรุ่นที่มีล้อซี่ลวด ที่สามารถเดินทางขับขี่ท่องเที่ยวไปได้แบบฟินฟิน ส่วนระบบเบรกนั้นมั่นใจในทุกการเดินทางกับระบบดิสก์เบรกหน้า และ ระบบดรัมเบรกที่ล้อหลัง และเมื่อเรามาปิดทริปที่งานเลี้ยงฉลองYAMAHA MOTO CHALLENGE 2018 ซึ่งหลังจากนำรถยามาฮ่า ฟินน์ เข้าไปเติมน้ำมันกลับคืนเข้าไป โดยตลอดทั้งทริปใช้ระยะทาง 195.9 กม. เติมน้ำมันไป 83 บาท 2.96 ลิตร หรือให้อัตราเฉลี่ยการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 66.18 กม./ลิตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทริปกับการขับขี่ที่ค่อนข้างใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและสภาพอากาศที่ร้อนระอุ แต่ยามาฮ่า ฟินน์ ให้การขับขี่ที่ดีและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากอีกหนึ่งทริป













UIP : 523 | Page View : 548