ฟินน์ ทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว Ep.3 @บุรีรัมย์ วันแรกบิดแบบฟินน์ฟินน์ 45 กม. เที่ยวเขากระโดง ปากปล่องภูเขาไฟ วัดป่าเขาน้อย ชมดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก

โปรเจ็คการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว มาถึง Ep.3 กันแล้ว โดยในครั้งนี้ไปทำการขับขี่กันที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมืองแห่งมอเตอร์สปอร์ต ที่มีคำขวัญว่า “เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวมวัฒนธรรม เลิศล้ำเมืองกีฬา” ซึ่งแน่นอนในทริปนี้เราจะต้องขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ไปเที่ยวที่เป็นแหล่งภูเขาไฟและที่ขาดไม่ได้ก็คือ ปราสาทหิน ซึ่งจะไปที่ไหนกันบ้าง ซ้อนท้ายกันมาได้เลย
 
ต่อเนื่องเป็นจังหวัดที่สามกับการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ รถครอบครัวรุ่นใหม่ล่าสุดของค่ายยามาฮ่า ในโปรเจ็ค “ฟินน์ทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว” ซึ่งแน่นอนเราทำการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ เที่ยวไปในสถานที่ต่างๆในแต่ละจังหวัด โดยการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงลงไปเพียงครั้งเดียวกับการเที่ยวไปในหลายๆพื้นที่สำคัญของแต่ละจังหวัด ซึ่งในสองทริปแรกที่จังหวัดนครสวรรค์ ต่อด้วยจังหวัดมหาสารคาม และล่าสุดเราทำการขับขี่กันที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยในครั้งนี้เราได้ชวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์มาร่วมทริปไปกับเราด้วยเพื่อให้ได้ซึมซับการขับขี่ไปพร้อมๆกับสื่อมวลชนด้วย














 
ในทริปนี้มีผู้ร่วมทริปด้วยกัน 6 คน โดยมีสื่อมวลชนที่ขับขี่ในครั้งนี้ 4 คนและผู้ใช้รถจักรยานยนต์อีก 2 คนด้วยกันคือคุณตุ๊ก กับคุณหนุงหนิงมาร่วมขับขี่ไปด้วยกัน หลังจากแนะนำเส้นทางและแนะนำรูปแบบการขับขี่กันแล้ว เราเริ่มต้นการขับขี่กันที่ร้านอึ้งทงกี่ยานยนต์ในตัวเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ จากนั้นก็นำรถยามาฮ่า ฟินน์ ทั้ง 6 คันทำการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เต็มถังพร้อมกับการเดินทางสู่จุดหมายต่างๆที่วางไว้ในวันแรกนี้ ยามาฮ่า ฟินน์ รถครอบครัวพรีเมี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการดีไซน์รูปร่างหน้าตาให้ถูกใจผู้ใช้ชาวไทยให้มากที่สุด นับตั้งแต่การดีไซน์ไฟหน้าโฉมใหม่พร้อมความสว่างชัดกับหลอดไฟหน้าแบบฮาโลเจน ขณะที่มีการดีไซน์ในส่วนไฟเลี้ยวใหม่และเพิ่มเติมในส่วนของไฟหรี่ใหม่ เช่นเดียวกับไฟท้ายที่ออกแบบใหม่มีความใหญ่มากขึ้นให้ผู้ร่วมทางมองเห็นไฟท้ายรถและไฟเบรกได้ชัดเจนมากขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัยและมั่นใจการขับขี่มากยิ่งขึ้น เราขับขี่ยามาฮ่าฟินน์ออกจากตัวเมืองบุรีรัมย์มุ่งหน้าผ่านวงเวียนอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 มุ่งหน้าผ่านสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ที่ในช่วงเวลานี้กำลังจัดการแข่งขัน ARRC สนามสุดท้าย ก่อนมุ่งหน้าสู่วนอุทยานเขากระโดง















จากนั้นยามาฮ่า ฟินน์ ก็เดินทางขึ้นเขากระโดงเส้นทางค่อนข้างลาดชัน แต่ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ยามาฮ่า ฟินน์ที่เป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 115 ซีซี หัวฉีดอัจฉริยะที่ให้พลังความแรงในการขับขี่ขึ้นทางลาดชัดได้อย่างดีเยี่ยมให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินจนมาถึงด้านบนของเขากระโดงเพื่อชมความงามของทัศนียภาพก่อนจะไปต่อยังบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ จากนั้นก็ไหลลงเนินยาวๆสู่พื้นราบ พร้อมเดินทางต่อสู่วัดป่าเขาน้อยเพื่อนมัสการพระเจดีย์ศรีสุวจคุณานุสรณ์ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ จากนั้นก็เดินทางต่อแบบสบายๆเพื่อไปชมดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก

















เราเก็บภาพยามาฮ่า ฟินน์ แบบสวยๆมาใช้ในการประกอบเรื่องราว หลังชมดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วก็เดินทางกลับเข้าเมืองพร้อมแวะรับประทานอาหารมื้อค่ำสุดอร่อยที่ร้านเพลงเพลิน จากนั้นก็ขี่ยามาฮ่าฟินน์ในช่วงกลางคืนกับความส่องสว่างของไฟหน้าที่สว่างไสวชัดเจน หรือแม้ไฟท้ายไฟเบรกและไฟเลี้ยว ที่ในยามค่ำคืนวิศวกรยามาฮ่าดีไซน์ให้มองเห็นชัดเจนในทุกระยะและมุมมอง ในส่วนแผงหน้าปัดออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน อีกทั้งมาตรวัดแสดงมาตรวัดความเร็วแบบเข็ม พร้อมไฟแสดงตำแหน่งเกียร์เป็นตัวเลข ไฟเลี้ยวซ้าย-ขวาที่กระพริบสว่างแต่ไม่รบกวนสายตา ที่แผงหน้าปัดยังมีไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ว่าง เลขไมล์วัดระยะทาง ไฟเตือนไฟสูง ไฟเตือนเครื่องขัดข้อง และมาตรวัดปริมาณเชื้อเพลิง เรามาปิดทริปในวันแรกที่โรงแรมธาดาชาโต รวมระยะทางในวันแรก 45 กม.



















UIP : 607 | Page View : 655