ยามาฮ่าฟินน์ทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว สัมผัสความฟินน์ในรูปแบบใหม่ที่จังหวัดนครสวรรค์ วันแรกบิดสบายๆชมพระอาทิตย์ตกบนทุ่งข้าว

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด รุกตลาดรถจักรยานยนต์ครอบครัวแบบเต็มพิกัดอีกครั้ง เดินหน้าจัดกิจกรรมขับขี่สุดฟินน์ทั่วทุกภาคของเมืองไทย เพื่อแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะและความประหยัดของรถจักรยานยนต์ครอบครัวยุคใหม่อย่าง “ยามาฮ่า ฟินน์” ที่มาพร้อมกับดีไซน์พรีเมี่ยมตลอดทั้งคัน พร้อมฟีเจอร์เพิ่มความสะดวกสบายกว่า แรงดี ขับขี่ง่าย และประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยีการจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดที่ออกแบบมาเพื่อรถมีเกียร์โดยเฉพาะ กับโปรเจ็ค “ยามาฮ่าฟินน์ทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว” ด้วยการขับขี่ท่องเที่ยวด้วยการใช้ “น้ำมันเชื้อเพลิงแค่ถังเดียว” เท่านั้น!!!
 
สำหรับกิจกรรม “ยามาฮ่าฟินน์ทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว” เริ่มประเดิมความฟินน์กันที่ จ.นครสวรรค์ โดยครั้งนี้ได้สื่อมวลชนจาก 6 สำนักมาร่วมฟินน์ ซึ่งหลังจากที่จัดการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ให้กับ “ยามาฮ่า ฟินน์” ที่ใช้ในการเดินทางทั้ง 6 คัน “เต็มถัง” พร้อมกับจดบันทึกตัวเลขระยะทางบนหน้าปัดเรือนไมล์เรียบร้อย (ฟินน์บางคันเป็นรถใหม่แกะกล่องเลขไมล์ 0 และบางคันก็เป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาบ้างแล้ว) ขบวนแห่งความฟินน์ก็ตั้งขบวนในเวลาประมาณ 15.00 น. เพื่อออกสตาร์ทกันที่บริเวณ “อุทยานสวรรค์” ที่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของตัวเมืองนครสวรรค์ โดยจุดหมายแรกของทริปนี้อยู่ที่ “วัดศรีอุทุมพร”





















จากตัวเมืองนครสวรรค์ถึง “วัดศรีอุทุมพร” ระยะทางประมาณ 25 กม. ขบวน “ยามาฮ่า ฟินน์” เดินทางกันมาแบบชิลล์ๆ ด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 80 กม./ชม. ซึ่งเครื่องยนต์สามารถตอบสนองการขับขี่ได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเค้นเลย โดยวัดศรีอุทุมพรนี้ถือเป็นสถานที่ที่ชาวนครสวรรค์ให้ความเคารพศรัทธา และมีสังขารไม่เน่าเปื่อยของ หลวงพ่อจ้อย จันทสุวัณโณ อดีตเจ้าอาวาส ผู้ได้รับสมญานามว่าเป็นเทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพ ซึ่งดำรงตนสมสมณเพศและเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก สิ่งที่ท่านพูดมักเป็นไปตามนั้นเสมอ จนได้ฉายา “เกจิวาจาสิทธิ์” ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2550 สิริอายุ 94 ปี ทางวัดเก็บรักษาไว้ในโลงแก้ว ประดิษฐานในมณฑป เพื่อให้ลูกศิษย์กราบสักการะกันทุกวัน ซึ่งคณะผู้ขับขี่ “ยามาฮ่า ฟินน์” ในทริปนี้ต่างเข้ากราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง พร้อมทั้งเดินชมความสวยงามของวัดที่มีความสวยงาม มีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นภายในมณฑปที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังร่วมสมัยที่งดงาม, โบสถ์ 2 ชั้น ซึ่งชั้นล่างมี “หนุมานอมพลับพลา” อยู่ด้านหน้าทางเข้า ภายในมีพระประธานสีขาวและภาพเขียนสีที่สวยงามบนเพดาน และมีเสาโบสถ์มากกว่า 100 ต้น, หอกลองหอระฆัง เป็นเรือนไม้สักทั้งหลัง ภายในมีพระพุทธรูปหยกเขียว และหุ่นขี้ผึ้งเกจิอาจารย์ต่างๆ, หอมีดอาคม ภายในมีมีดหมอหนัก 3 ตัน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นต้น





















หลังจากที่ชื่นชมความงดงามที่วัดศรีอุทุมพรกันจนฟินน์แก่ใจแล้ว ก่อนกลับขบวนแห่งความฟินน์ได้เดินทางไปชมพระอาทิตย์ตกดินหลังเหลี่ยมเขา โดยมีทุ่งหญ้าเป็นโฟร์กราวนด์สะท้อนแสงอาทิตย์ยามอัสดง ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก เป็นเส้นทางสัญจรของชาวบ้านแถวนั้น แต่ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินแบบ Unseen ที่มีความสวยงามและให้ความรู้สึกที่ฟินน์ไม่แพ้สถานที่อื่นๆเช่นกัน ทำให้ผู้ขับขี่เดินทางกลับตัวเมืองปากน้ำโพในช่วงเย็นก่อนค่ำได้อย่างมีความสุขแบบฟินน์ๆได้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งรวมระยะทางไป-กลับ ในช่วงนี้กว่า 50 กม. แต่เกจ์วัดน้ำมันของ “ยามาฮ่า ฟินน์” ยังคงชี้อยู่ที่จุดสูงสุดเหมือนตอนเติมเต็มถังอยู่เลย!!! และปิดท้ายวันด้วยอาหารเย็นที่ร้าน นายตี๋ ลูกชิ้นปลากราย 3 รส ร้านดังของเมืองปากน้ำโพที่ใครๆก็ต้องมาแวะชิม ที่บอกได้เลยว่า อร่อยสุดยอดจริงๆ
 
สำหรับการเดินทางในจังหวัดนครสวรรค์จะเป็นอย่างไร จะไปไหนกันบ้าง ใช้ระยะทางรวมเท่าไหร่ ใช้น้ำมันไปกี่ลิตร อย่าลืมพรุ่งนี้มาติดตามกัน



















UIP : 667 | Page View : 708