One Day Trip กับยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด ทดสอบเทคโนโลยีไฮบริดรอบกรุงครั้งแรก พร้อมให้ชีวิตมีคลาส สมาร์ทไปอีกขั้น

ยามาฮ่าเผยโฉมรถจักรยานยนต์ไฮบริดรุ่นแรกในประเทศไทย “ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด” ชีวิตมีคลาส สมาร์ทไปอีกขั้น ซึ่งเป็นรถออโตเมติกพรีเมี่ยม 125 ซีซี เครื่องยนต์บลูคอร์ใหม่ ที่ทำงานผสมผสานกับระบบไฮบริด ที่ส่งกำลังออกตัวได้อย่างดีเยี่ยมด้วยระบบ Smart Motor Generator พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Start System ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่งเกิน 5 วินาที ทั้งยังเสริมความรวดเร็วในการสตาร์ทกับระบบ One Push Start ซึ่งเป็นระบบสตาร์ทแบบใหม่ที่ง่ายและรวดเร็วขึ้น ทั้งยังเงียบมีมีเสียงมอเตอร์รบกวน รวมทั้งเสริมฟังก์ชั่นสุดหรูมีระดับ ซึ่งในโอกาสที่ยามาฮ่าได้จัดงาน Automatic is NOW Festivalที่เดอะสตรีทรัชดา สื่อมวลชนได้จัดทริปการทดสอบ One Day Trip ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด ขึ้นโดยเริ่มทดสอบจากบริเวณงานก่อนวิ่งรอบกรุงเพื่อพิสูจน์สมรรถนะของรถรุ่นนี้
 
หลังจากที่ยามาฮ่าได้ทำการเปิดตัว ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด รถออโตเมติกไฮบริดรุ่นแรกในประเทศไทยที่เมื่อเปิดตัวต่อผู้แทนจำหน่ายและสื่อมวลชนไปได้ไม่กี่วัน รถยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริดก็ถึงร้านผู้แทนจำหน่ายให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ได้เป็นเจ้าของพร้อมได้ใช้เทคโนโลยีไฮบริดก่อนใคร พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับขี่ยามาฮ่าแกรนด์ฟีลาโน่ ไฮบริด ซึ่งทีมงานนิตยสารจักรยานยนต์เวิร์ลด์ได้มีโอกาสทดสอบขับขี่รถรุ่นนี้ทั้งงานเปิดตัวและทดสอบที่เขาใหญ่โดยร่วมทริปไปกับสื่อมวลชนสายหนังสือพิมพ์ด้วย และในครั้งนี้ได้ทดสอบยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริดแบบจริงๆจังๆอีกครั้งกับการทดสอบในรูปแบบ One Day Trip กับยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด










 
เรานัดรวมตัวกันในช่วง 9 โมงเช้าที่เดอะสตรีทรัชดา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน Automatic is NOW Festival จากนั้นในช่วง10โมงกว่าๆก็พร้อมออกเดินทางโดยใช้เส้นทางในกรุงเทพฯโดยก่อนเดินทางก็จัดการเติมน้ำมันให้กับรถทุกคัน โดยที่บริเวณสวิตช์กุญแจจะมีปุ่มเปิดฝาถังน้ำมัน และฝาถังน้ำมันจะอยู่ด้านหน้าใต้แฮนด์ซ้ายซึ่งสะดวกและง่ายในการเติมน้ำมันแบบไม่ต้องลงจากรถ นอกจากนี้ยังมีปุ่มเปิดเบาะนั่งด้วยเรียกว่าให้ความสบายในการใช้งาน จากการดีไซน์ที่มีการปรับรูปโฉมใหม่ ให้มีความเหมือนที่แตกต่างไปจากเดิม พร้อมการออกแบบดีไซน์ของรูปทรงที่เรียบเนียบไร้น๊อตบริเวณรอยต่อของรถ ทำให้ดูสวยสง่าดูมีคลาสมากขึ้น ทั้งไฟหน้าแบบ New High Luxurious Design แบบใหม่ รวมกับระบบไฟหน้าแบบ Full LED Headlight มาพร้อมกับไฟเลี้ยวหน้า-หลังที่เป็นเลนส์ใส ผสานกับการออกแบบดีไซน์ไฟท้ายใหม่ พร้อมไฟแบบLED Tailight ที่ปรับโฉมให้ผู้ร่วมทางมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะเวลามีคนนั่งซ้อนท้าย ที่ตลอดทั้งคันได้รับการออกแบบใหม่ที่สวยสง่ามีคลาสมากขึ้น และเมื่อทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยในรุ่นแกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด นี้มีทั้งระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key System ที่มีความสะดวกสบายควบคุมรถได้ทั้งคัน พร้อมสวิตช์ปิด-เปิดแบบมัลติฟังก์ชั่น ทั้งปลดล็อคสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ ปลดล็อคแฮนด์ ปุ่มเปิดฝาถังน้ำมัน ปุ่มเปิดเบาะ ที่ควบคุมได้ในจุดเดียว โดยระบบกุญแจรีโมทมาพร้อมกับระบบเบรกแบบABS ด้วย เมื่อเราบิดกุญแจเพื่อทำการสตาร์ท สิ่งที่มองเห็นได้ก่อนคือแผงหน้าปัดดีไซน์เรือนไมล์แบบใหม่ เป็นเรือนไมล์แบบดิจิตอลจอสีแบบColor TFT LCD ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นทั้งระยะทาง เวลา อัตราการสิ้นเปลืองแบบReal-Time ทั้งการแสดงผลการทำงานของระบบไฮบริด โดยเมื่อบิดกุญแจจะมีข้อความต้อนรับว่า “WELCOM ABOARD” และเข็มวัดความเร็วจะขยับขึ้นไปเพื่อแสดงสถานะว่าพร้อมใช้งาน และเมื่อทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพียงกดปุ่มสตาร์ท ยามาฮ่าแกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด คันนี้มีระบบสตาร์ทแบบ One Push Start แบบใหม่ที่ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดเพียง 0.2 วินาที สตาร์ทติดง่ายและเงียบไร้เสียงมอเตอร์รบกวน











หลังจากทุกคนพร้อมก็ถึงเวลาการออกเดินทาง เพียงบิดคันเร่งให้มากขึ้นระบบการทำงานของไฮบริดก็เริ่มทำงานในช่วงออกตัวในทันที โดยระบบไฮบริดช่วยส่งกำลังให้การออกตัวดีขึ้น เพราะมี Smart Motor Generatorหรือ SMG ที่ถูกสั่งการโดยกล่องควบคุมSGCU ให้ส่งกำลังในการออกตัวได้รวดเร็วขึ้น เราสามารถสังเกตเห็นได้ทันที พร้อมยังมีไฟโชว์การแสดงการทำงานของระบบไฮบริดที่แผงหน้าปัดอีกด้วย และเมื่อรถจอดสนิททุกครั้งและเมื่อเราบิดคันเร่งออกตัว ระบบการทำงานของไฮบริดจะทำให้ในทุกครั้งที่เราเปิดคันเร่งช่วยให้การออกตัวเร็วขึ้นดีขึ้น และระบบไฮบริดจะทำงานในช่วงความเร็ว0-30 กม./ชม. ซึ่งถือเป็นความเร็วในช่วงออกตัว ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงการบิดคันเร่งออกตัวจะเป็นช่วงที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาก ดังนั้นค่ายยามาฮ่าช่วยตอบโจทย์ในการช่วยให้ผู้ใช้ได้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกด้วยการทำระบบไฮบริดในช่วงของการออกตัว ซึ่งหลังความเร็วเกิน 30 กม./ชม.แล้วก็จะเป็นการใช้ระบบการทำงานของเครื่องยนต์โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามปกติ แต่ด้วยความที่ยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่นั้นเป็นรถจักรยานยนต์ออโตเมติกที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่แล้ว ยิ่งมีระบบช่วยส่งกำลังให้ออกตัวดีขึ้นของระบบไฮบริดทำให้นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วยังให้ได้รับความรวดเร็วในการเดินทางกับการออกตัวที่เร็วขึ้น











นอกจากนี้ในยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด ยังมีระบบการดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ หรือที่เรียกกันว่า Stop&Start System โดยเป็นระบบที่เมื่อเครื่องยนต์ดับภายใน 1.5 วินาทีเมื่อเบรกและหยุดรถทันทีเมื่อวิ่งมาด้วยความเร็ว และยังเป็นระบบที่เครื่องยนต์ดับภายใน 5 วินาทีเมื่อใช้ความเร็วต่ำในการจราจรที่ติดขัด เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ได้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ซึ่งยามาฮ่าแจ้งว่าช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ถึง 9 % ซึ่งในทุกครั้งของการขับขี่ทั้งสองระบบจะทำงานไปในตลอดเส้นทางที่เราใช้ในการขับขี่จากหน้าเดอะสตรีทรัชดา สู่ถนนรัชดาภิเษกผ่านแยกอโศก แยกคลองเตยเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม4 และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทร มุ่งหน้าสู่ถนนเจริญกรุง ด้วยสภาพการจราจรในวันอาทิตย์ค่อนข้างโล่ง แต่ขบวนOne Day Trip ยามาฮ่าแกรนด์ฟีลาโน่ ไฮบริด ก็ยังคงขับขี่กันไปแบบสบายๆด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. เพื่อซึมซับบรรยากาศรวมถึงสมรรถนะต่างๆของรถ จนมาถึงแวร์เฮ้าส์เจริญกรุง30 ซึ่งเป็นมาร์เก็ตเพลสขนาดกะทัดรัดที่มีทั้งร้านอาหารเครื่องดื่มที่ช็อปปิ้งกับบรรยากาศโกดังขนาดใหญ่ที่ดัดแปลงขึ้นมาให้กลายเป็นแหล่งช็อปแห่งใหม่ ซึ่งเรานำยามาฮ่าแกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด มาจอดถ่ายรูปและนั่งพักดื่มกาแฟกัน ซึ่งก่อนจะพักดื่มกาแฟ เราก็ทำการดับเครื่องยนต์โดยที่แผงหน้าปัดเรือนไมล์ดิจิตอลจะมีข้อความกล่าวทักกับผู้ขับขี่ก่อนจะออกไปจากรถกับคำว่า “SEE YOU SOON” แน่นอนว่าเดี๋ยวกลับมาเจอกันใหม่ พร้อมทั้งนำหมวกกันน็อคแบบเต็มใบเปิดหน้าของยามาฮ่าแกรนด์ฟีลาโน่ไฮบริดเอามาใส่ไว้ใต้เบาะกับกล่องGrang Box ที่มีขนาดความจุ 27 ลิตร ทั้งยังมีไฟLEDสว่างอยู่ด้านในช่วยให้เวลาค่ำคืนใช้ผู้สามารถมองเห็นสิ่งของในกล่องแกรนด์บ๊อกซ์ได้ง่าย










 
หลังจากนั่งพักผ่อนกับบรรยากาศภายในแวร์เฮ้าส์ร่วมกับยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด กันแล้วก็มาเดินทางกันต่อระบบOne Push Start ยังคงสร้างความประทับใจในการสตาร์ทเครื่องยนต์เพียงสัมผัสเบาๆเครื่องยนต์ก็ติดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราเดินทางกันต่อมุ่งหน้าสู่ถนนเยาวราช ช่วงนี้มีสาวๆพริ๊ตตี้ของยามาฮ่ามานั่งซ้อนด้วย จึงได้เห็นความง่ายและนำสมัยของที่วางเท้าหลังเพียงแค่กดที่พักเท้าก็กางออก ผู้ขับซ้อนก็นั่งสบายไปในตลอดเส้นทาง ระบบไฮบริดก็ยังคงทำงานได้ดีเยี่ยมในช่วงออกตัว ยิ่งซ้อนสองน้ำหนักรถมากขึ้น ระบบไฮบริดที่ช่วยส่งกำลังในการออกตัวเพียงเปิดคันเร่งรถก็พุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว การควบคุมรถทำได้ดีเยี่ยม ให้การซิกแซกรวดเร็วเสมือนขี่อยู่คนเดียวเพราะมีแรงบิดที่สูงถึง 9.9 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาที ช่วงเข้าเยาวราชเจอสภาพการจราจรที่ติดขัดอยู่บ้างแต่ก็นำยามาฮ่าแกรนด์ฟีลาโน่ ไฮบริดลัดเลาะไปในช่องว่างของรถได้รวดเร็ว จนเข้ามาสู่บริเวณเสาชิงช้าพร้อมถ่ายรูปในช่วงนี้และมุ่งหน้าเข้าถนนราชดำเนินกลางก่อนเลี้ยวขวาที่แยกคอกวัวเข้าถนนข้าวสาร ซึ่งที่ถนนข้าวสารยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริดได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติที่มายืนดูการขับขี่ผ่านของพวกเราก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนพระอาทิตย์เพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม Riva Surya Bangkok กับความหรูหราในสไตล์ยามาฮ่าแกรนด์ฟีลาโน่ไฮบริด
 










หลังจากอิ่มกับอาหารมื้อกลางวันก็เข้าสู่การขับขี่ทดสอบกันต่อ ไม่ว่าจะขี่คนเดียวหรือมีคนนั่งซ้อน ยามาฮ่าแกรนด์ฟีลาโน่ ไฮบริด ก็ให้ความสนุกสนานนับตั้งแต่บิดคันเร่ง ทั้งความหรูหราของการออกแบบดีไซน์ที่พรีเมี่ยม ทุกครั้งที่หยุดรถและบิดคันเร่งระบบไฮบริดของยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่ ไฮบริดจะทำงานทุกครั้ง จึงเป็นการตอกย้ำถึงเทคโนโลยีที่พร้อมใช้งานในทุกครั้ง เราขับขี่มาจอดถ่ายรูปที่บริเวณด้านหน้าศาลหลักเมืองจากนั้นก็ขี่เข้าสู่ท่ามหาราช คอมมูนิตี้มอลล์สุดชิคของคนกรุงเทพที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเรานำรถมาจอดถ่ายภาพบริเวณลานน้ำพุและนำรถขึ้นมาจอดที่บริเวณหน้าร้านStarbucks เพื่อถ่ายภาพและนั่งพูดคุยถึงการขับขี่และเทคโนโลยีของยามาฮ่าแกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด หลังจากนั้นก็เดินทางมุ่งหน้าสู่งานกิจกรรม Automatic is NOW Festival โดยใช้เส้นทางถนนราชดำเนินกลางเข้าสู่ถนนลูกหลวงตัดเข้าแยกสนามม้านางเลิ้ง มุ่งเข้าถนนพญาไท เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีอยุธยามุ่งหน้าสู่ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเข้าสู่งานกิจกรรม ช่วงนี้สภาพการจราจรเริ่มมีรถหนาแน่นเป็นบางช่วงเพราะเป็นช่วงเย็นวันอาทิตย์ แต่สำหรับการขับขี่ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด สามารถลัดเลาะไปได้อย่างรวดเร็ว พร้อมระบบการทำงานของเทคโนโลยีไฮบริดที่ทำงานทุกครั้งหลังจากรถหยุดสนิทและเปิดคันเร่ง ซึ่งเรียกได้ว่า ระบบไฮบริดของยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ที่ขับขี่ในเมืองได้อย่างครบครันไม่ยุ่งยาก ใช้งานง่าย เป็นรถที่ขับขี่สนุกอีกรุ่นทั้งยังให้เกิดความรู้สึกมีสไตล์ ดูหรูหราในยามขับขี่บนท้องถนน









UIP : 1,267 | Page View : 1,311