ทดสอบ ยามาฮ่า MT07 สปอร์ตเน็กเก็ตที่ขี่ง่าย เหมาะกับผู้ที่เริ่มก้าวสู่รถบิ๊กไบค์

ทีมงานนิตยสารจักรยานยนต์เวิร์ลด์ ได้มีโอกาสได้ทดสอบสองรถเน็ตเก็ตไบค์ในตระกูล MT ซีรี่ส์ โดยครั้งที่แล้วนำเสนอรีวิวการทดสอบยามาฮ่า MT09 ไปกันแล้ว มาในครั้งนี้เราขอนำเสนอรีวิวการทดสอบ ยามาฮ่า MT-07 ที่ได้ร่วมทริปการเดินทางในคราวเดียวกันมาให้แฟนๆได้ทราบกัน

 
การเผยโฉมของยามาฮ่า MT-07 นั้นนับได้ว่าเป็นการเผยโฉมรถในเซ็กเม้นท์รถสปอร์ตเน็ตเก็ตของค่ายยามาฮ่า ที่โดนใจผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นอย่างมาก ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ความสปอร์ตปราดเปรียว โดยยามาฮ่า MT07 คันนี้ เน้นถึงการออกแบบดีไซน์ตัวรถให้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะ โดยมีแนวคิดในการออกแบบมาเพื่อมอบความสนุก เพลิดเพลิน ให้กับผู้ขับขี่ ด้วยมิติรูปทรงกว้าง 745 มม. ความยาว 2,085 มม.และสูง 1,090 มม. ด้วยมิติขนาดนี้เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่กำลังเริ่มก้าวเข้าสู่การขับขี่รถบิ๊กไบค์ ซึ่งหมายความว่าอาจจะเคยขี่รถสไตล์สปอร์ตในพิกัด150 หรือ 321 ซีซีมาก่อนหน้านี้ เรียกว่าต้องมีทักษะที่ดีในระดับหนึ่งกับการขี่รถสปอร์ต พอก้าวขึ้นมาขี่ในรถสไตล์MT ในพิกัดซีซีขนาด 689 ซีซี ก็จะสามารถรู้จักเทคนิคการขับขี่ควบคุมกำลังเครื่องยนต์ของรถ




อย่างที่บอกไว้เครื่องยนต์ 689 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 สูบเรียง4 วาล์วต่อสูบ แบบครอสเพลน (Crossplane : CP2) จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ มีอัตราเร่งที่จัดจ้าน ดุดัน เร้าใจ ให้สมรรถนะสูงเกินตัว มีความคล่องตัวสูง น้ำหนักเบา





ก่อนขึ้นคล่อมเมื่อเรามองไปที่ส่วนหน้ารถจะเห็นไฟหน้าแบบใหม่แปลกตาดี MT07 นี้มีไฟหน้าแบบ 7 เหลี่ยม แบบมีไฟหรี่ในตัวด้วย พร้อมไฟเลี้ยวแยกส่วนซ้ายขวา ส่วนไฟท้ายนั้นเป็นไฟ LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบแยกส่วนด้วยเช่นกัน ส่วนสวิตช์กุญแจก็อยู่บริเวณด้านบนของไฟหน้า หรือเลยตำแหน่งเรือนไมล์ขึ้นไปนิดนึง






 
เมื่อขึ้นคล่อมจะให้ความรู้สึกเหมือนขับขี่รถสปอร์ต แต่ให้ความกะทัดรัด มีน้ำหนักรถเพียง 182 กก. เรียกว่าเบามากเมื่อเทียบกับกำลังเครื่องยนต์ ท่านั่งที่กระชับรับกับคนขี่ ตำแหน่งการวางเท้าบนพื้นถนน สามารถวางได้เต็มเท้ากับส่วนสูงของผู้ขับขี่ที่ 170 ซม. เรียกได้ว่าใครที่สูงเกิน160 ซม.สามารถคล่อมคันนี้ได้สบาย เพราะส่วนสูงจากเบาะถึงพื้นอยู่ที่ 805 มม. และสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงเครื่องในรอบเดินเบานุ่มหู แต่เมื่อยามโจนทะยานด้วยความเร็ว เสียงก็เร้าใจดุดันให้อารมณ์สนุกสนาน
 


สำรวจตรวจตราในส่วนด้านหน้าของผู้ขับขี่กันนิดนึง ตำแหน่งแฮนด์เดิ้ลบาร์ทั้งซ้าย-ขวา ด้านซ้ายมีสัญญาณไฟเลี้ยว สัญญาณแตร ไฟสูง-ต่ำ ไฟขอทาง ส่วนด้านขวานอกจากคันเร่งแล้ว มีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ตามแบบฉบับMT พร้อมปุ่มสัญญาณไฟฉุกเฉินด้วย ที่มาตรวัดเป็นดิจิตอลที่ครบครันกับการใช้งานทั้งรอบความเร็ว ความเร็วของรถ ตัวเลขบอกเกียร์ Trip1-2 AVE ODO ตัวเลขบอกอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ไฟแสดงECO และนาฬิกา พร้อมปุ่มปรับโหมดที่มีตำแหน่งวางอยู่กลางเรือนไมล์พร้อมไฟเตือนต่างๆไว้ครบครัน








 
หลังเช็คความเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาทดลองขับขี่ ยามาฮ่า MT07 เป็นรถสปอร์ตเน็ตเก็ตที่ให้อารมณ์ความรู้สึกที่เมื่อบิดคันเร่งแล้วทุกอย่างง่ายไปหมด ง่ายตั้งแต่ท่านั่ง เมื่อนั่งสบายการควบคุมรถทั้งการเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็ทำได้ง่าย การควบคุมการขับขี่เป็นไปง่าย มองในด้านสมรรถนะ ต้องยอมรับว่าเป็นรถที่ขี่ง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งความดุดัน







 
ลองขี่แบบชิลชิลก็ให้การขับขี่ที่สบาย แต่เมื่อลองขี่แบบสไตล์ดุดันรวดเร็ว MT07 โชว์พลังของเครื่องยนต์ขนาด 689 ซีซีอออกมาได้ดุดันเร้าใจ จากเกียร์ต่อเกียร์ยามบิดคันเร่งพุ่งทะยานได้อย่างรวดเร็วแต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวล ทำให้ผู้ขับขี่สามารถคอนโทรลรถได้ง่าย ลองทำความเร็วในช่วงถนนว่างๆได้มากถึง 150 กม./ชม. และในช่วงการเดินทางแบบสบายๆสามารถทำความเร็วได้ 100-120 กม./ชม.ก็สามารถพาผู้ขับขี่บิดไปได้แบบชิลชิล รถรุ่นนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่ใช้รองเท้าแบบรองเท้าบู๊ธเพราะเวลาจอดติดสัญญาณไฟแดง เวลารถเคลื่อนตัวจะต้องยกเท้ามาวางบนที่พักเท้า บริเวณด้านบนของรองเท้าบู๊ธจะไปติดกับที่พักเท้า ทำให้ผู้ขับขี่ต้องคอยระวัง แต่ถ้าคุ้นชินก็จะรู้จังหวะของมันได้



 
ด้วยความที่นักทดสอบนิตยสารจักรยานยนต์เวิร์ลด์มีโอกาสได้ทดสอบขับขี่ทั้งMT09 และ MT07 ต้องบอกเลยว่าทั้ง 2 รุ่นมีความแตกต่างกันทั้งท่านั่งในการขับขี่ ทั้งอัตราเร่งของเครื่องยนต์ ตัวMT07 จะให้การขับขี่ที่ง่ายไม่ดุดันมากแต่สำหรับMT09 จะดุดันเร้าใจ จึงเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ได้มีรถที่มีสไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย



ในส่วนของช่วงล่างของ MT07 โพกัสไปที่โช้คอัพหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิค ขนาด 41 มม.กำลังพอเหมาะและกำลังดีไม่หนักและไม่เบาเกินไป และโช้คอัพหลังเป็นแบบโช้คเดี่ยว พร้อมสวิงอาร์มอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง สังเกตจากการขับขี่เวลาเจอทางขรุขระ จะรู้สึกว่านุ่มนวลไม่ส่งแรงสะท้านมาถึงตัวผุ้ขับขี่มากนัก มองไปที่ล้อแม็กต้องบอกเลยว่าเท่มากๆกับล้อแม็กอลูมิเนียมขนาด 17 นิ้วแบบ10 ก้านโดยล้ออลูมิเนียมนี้จะมีน้ำหนักที่เบา ไม่เป็นภาระต่อการขับขี่ ยางหน้าขนาด 120/70-ZR17 และยางหลังไซค์ 180/55-ZR17 โดยทั้งล้อหน้าและหลังเป็นยางไร้ยางในหรือยางทรุปเลส เป็นสเปคยางที่ให้ความนุ่มนวลต่อการขับขี่และการควบคุมคอนโทรลให้เป็นไปแบบง่ายและคล่องตัว ท่อไอเสียได้รับการดีไซน์ให้เข้ากับตัวรถแถมเสียงก็นุ่มหูแต่แฝงไปด้วยพละกำลังเวลาที่เราบิดคันเร่ง ระบบเบรกแน่นอนว่าเพื่อความมั่นใจทั้งยามขับขี่ในเมืองและเวลาเดินทางไกลระบบเบรกแบบ ABS บอกได้เลยว่าช่วยได้มาก ไม่ล็อคให้ล้มไถลแต่กลับช่วยให้เวลาขับขี่ให้ทรงตัวได้ดียามเบรกแรงๆหรือยามมีเหตุสุดวิสัย เบรกหน้ามาพร้อมจานดิสก์เบรกขนาด 282 มม. และจานดิสก์เบรกหลังขนาด 245 มม.













ตลอดทริปหนึ่งวันกับยามาฮ่า MT ซีรี่ส์ทั้ง MT09ที่นำเสนอผ่านไปแล้วกับ ยามาอ่า MT07 ที่ได้ไปลองลั่นมา เป็นอีกหนึ่งความสนุกเต็มเปี่ยมกับความสุขจากการโลดแล่นอยู่บนท้องถนน

UIP : 1,874 | Page View : 1,999